On that day we went to Baan Ma...
น้องนาเป็นมะเร็งที่ตาขวาตอนอายุ 2 เดือนและต้องควักตาออกตอนอายุ 5 เดือนเพื่อรักษาชีวิต หลังจากหาย น้องนาก็ใช้ชีวิตเป็นเด็กพิการมาตั้งแต่จำความได้และได้ไปโรงเรียนอยู่พักนึง ตอน 8 ขวบน้องเริ่มมีอาการอีก ปรากฎว่ามะเร็งมาเป็นที่ตาซ้าย ครั้งนี้ รพ ที่ภูเก็ตรักษาไม่ได้เลยเดินทางไปที่สงขลา หมอทำการรักษาโดยได้ทุนจากรัฐ ครอบครัวจึงไม่ได้เดือดร้อนมากนักในการหาเงินมาจ่ายค่ารักษา โชคดีที่สุดที่นายังสามารถรักษาตาอีกข้างที่เหลืออยู่ไว้ได้ถึงแม้ว่าจะลางเลือนแต่ก็ยังถือว่าได้มีโอกาสเห็นโลกสวยงามใบนี้อยู่ ย่าปาดน้ำตาแล้วเล่าว่า แม่ทิ้งน้องนาไปในวันหนึ่งและเอาเงินทุนรักษาตัวของน้องไปหมด น้องและเด็กอีก 2 คนจึงกลายเป็นลูกย่าตั้งแต่วันนั้น ย่ารับจ้างนวด ได้เงินบ้างไม่ได้เงินบ้าง วันไหนมีก็ได้อิ่ม วันไหนไม่มีก็อดกันทั้งบ้าน พ่อเป็นพนักงานอัตราจ้าง บางเดือนก็ไม่พอสำหรับ 5 ชีวิตในบ้านเช่าอยู่ดี วันที่ย่าพาน้องนามาหาเรา น้องอายุ 13 ตาปลอมที่ทำตอน 8 ขวบหมดอายุแล้ว มองแทบไม่เห็นเลยต้องลาออกจาก รร ตาปลอมเปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีเหลืองเข้ม ตาน้องอักเสบมากมีขี้ตาเต็มและมีหนองเพราะย่าไม่มีเงินที่จะจ้างรถพาไป รพ เพื่อรักษา และกังวลว่าจะไม่มีเงินต่ายค่ารักษาตาน้องเพราะยังมีเด็กอีก 2 คนที่ต้องอยู่ต่อ เราฟังแล้วท้อใจจริงๆ เรารับปากว่าน้องจะต้องได้รับการักษาที่ดีที่สุด และความสัมพันธ์กับเราและน้องนาเริ่มต้นตั้งแต่วันนั้น วันที่เราคิดว่าเราไม่ควรปล่อยเด็กน้อยเผชิญโชคร้ายบนโลกใบนี้คนเดียวกับโรคมะเร็งที่วันนี้หาย พรุ่งนี้มันจะกลับมาอีกหรือไม่
By continuing to use our site you consent to the use of cookies as described in our privacy policy